Waiting part
ตั้งแต่หวังหยวนเข้ามาอยู่ในบ้านผมต้องยอมรับเลยว่าบ้านและคนในบ้านดูมีชีวิตชีวามากขึ้นจริงๆ
อาจจะเป็นเพราะความสดใสและความซนของเจ้าเด็กนั่น จนถึงวันนี้เราสองคนอาหลานสนิทกันขึ้นเยอะเลย
แต่ผมก็ไม่ค่อยมีเวลาเล่นกับแกมากเท่าไหร่หรอกครับ หวังหยวนก็บ่นเหงาตลอดบางวันแค่ได้มานั่งดูผมทำงานก็ยังดี
ผมเองก็ดีใจที่มีหลานชายเข้ามาเติมคำว่าครอบครัวให้เต็มขึ้น
ก็คิดไปว่าบ้านที่มีเด็กอยู่ด้วยนี่มันดีจริงๆ บางทีเรายิ้มหรือหัวเราะได้เพราะความไร้เดียงสาของเขา
มันทำให้ชีวิตเหงาๆ ของมนุษย์บ้างานดูมีสีสันขึ้นมา
หลังจากผมทำแผลให้หวังหยวนเสร็จเราก็ทานอาหารเย็นกัน
ผมเอ่ยปรามเขาไม่ให้เล่นซนจนเกิดเรื่องอีก
คราวนี้โดนมีดบาดแต่คราวหน้าอาจจะหนักว่านี้ใครจะรู้ หวังหยวนทำเป็นหูหวนลมเมื่อโดนผมบ่น
เจ้าเด็กนี่มันจริงๆ เลย ผมสั่งห้ามเด็ดขาดห้ามหวังหยวนไปเล่นในครัวอีก
ถ้าเกิดอะไรขึ้นคราวหน้าจะตีให้ก้นลายเลยคอยดู
ผมขึ้นห้องมาอาบน้ำเมื่อทานอาหารเย็นเสร็จ
พอเดินออกจากห้องน้ำกก็เจอหวังหยวนนอนแผ่อยู่บนเตียง
ผมคงอาบน้ำนานเกินไปเจ้าตัวเล็กถึงกับคอยจนหลับไปเลย
ผมนั่งลงที่ขอบเตียงมองใบหน้าของเด็กน้อยยามหลับจนต้องเผลอยิ้มออกมา
ปลายนิ้วของผมไล้ไปตามโครงหน้าเกลี่ยแก้มขาวเล่นอย่างเบามือ
“ฟอดด”
ผมกดจมูกหอมแก้มนิ่มนั่นเต็มปอดสูดกลิ่นแป้งจางๆ ของเด็ก
ริมฝีปากสีแดงนั่นยิ่งมองมันยิ่งทำให้ผมแทบหมดความอดทน
ต้องข่มใจตัวเองไว้เพราะหวังหยวนเป็นหลานของผม ถึงแม้ว่าในใจอยากจะแกล้งบดขยี้ริมฝีปากนิ่มให้บวมเจ่อขึ้นมาด้วยปากผมเองก็เถอะ
“อืออ.. คุณอา ทำอะไรน่ะ”
หวังหยวนพูดเสียงงัวเงียทั้งที่ยังไม่ลืมตา มือเล็กขยี้ตาไปมาท่าทางขัดใจที่โดนผมกวนจนตื่น
“ก็หวังหยวนนอนเสื้อเปิดจนพุงโผล่หมดแล้วอาเลยจะห่มผ้าให้ไง”
ผมโกหกหน้าตายออกไป เด็กน้อยเด้งตัวลุกขึ้นนั่งเอาเสื้อปิดแล้วยังนั่งกอดพุงตัวเองไว้แน่น
“พุงที่ไหนกันเล่า! คุณอาอ่ะ!” นั่นไง
ชอบทำปากยู่ๆ ยื่นๆ อยู่เรื่อยเลย
“ฮ่าๆ ไปนอนได้แล้วมั้ง ดึกมากแล้วนะ”
ผมมองหวังหยวนอย่างเอ็นดูกับท่าทางนั้นพลางขยี้ผมนุ่มเบาๆ
“วันนี้คุณอาไม่ทำงานต่อหรอครับ” ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ
“งั้นคืนนี้ผมนอนกับคุณอาดีกว่า ให้หวังหยวนนอนด้วยนะ นะฮะคุณอา ~” หวังหยวนนั่งกอดพุงทำตามปริบๆ
ออดอ้อนผม ท่าทางนั้นมันไม่ดีกับหัวใจของคุณอาคนนี้เลย.. มันทำให้ใจอาเต้นแรงผิดปกตินะรู้ไหม..
“ก็ได้ๆ คงไม่แอบลวนลามอาตอนหลับหรอกนะ”
หวังหยวนไม่ได้สนใจฟังที่ผมพูด
ร่างเล็กรีบดึงผมให้นอนบนเตียงพร้อมห่มผ้าให้เสร็จสรรพ
“แอร์ห้องคุณอาอะหน๊าวววววหนาวเนอะ” ไม่พูดเปล่า
เจ้าเด็กซนขยับตัวยุกยิกจะเบียดเข้าหาผมซะให้ได้ แถมยังเอาปลายจมูกถูแขนผมเล่นอีก นี่คิดจะแกล้งกันรึไงเนี่ย
อาไม่ได้ความอดทนสูงขนาดนั้นนะครับเด็กน้อย ผมรู้ว่าหวังหยวนแกล้งให้ผมรำคาญใจเล่น
แล้วมันก็ได้ผล..
ผมพลิกตัวคร่อมหวังหยวนอย่างรวดเร็ว
แกล้งตีหน้านิ่งใส่แต่มีหรอว่าลิงทโมนจะกลัว
หวังหยวนยังคงทำหน้าทะเล้นหัวเราะคิกคักสนุกสนานเมื่อแกล้งผมสำเร็จ
หวังหยวนพูดอะไรซักอย่างแต่ผมไม่ได้สนใจ
ผมจ้องมองริมฝีปากเล็กนั่นยามพูดมันเหมือนผมโดนมนต์สะกดของเด็ก
และมันทำให้สติผมขาดผึงทันที
ผมก้มลงเบียดจูบลงกับปากเล็กนั่นกดจูบย้ำไปทั่วแต่ไม่ได้สอดลิ้นรุกล้ำแต่อย่างใด
หวังหยวนดูตกใจเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ขัดขืน ตรงกันข้ามเด็กน้อยที่ไม่เจนกับสิ่งเหล่านี้กับหลับตาพริ้มเผยอปากให้ผมอย่างไม่ค่อยประสา
ปากของหวังหยวนมันทั้งนุ่มทั้งหอม ผมเขี่ยปอยผมที่ปรกใบหน้าของอีกคนออกกดปลายจมูกไล้ไปตามแก้มนิ่มคลอเคลียอยู่อย่างนั้นจนพอใจ
“อุ่นขึ้นรึยังหืม?”
ผมผละออกมามองหน้าของอีกคนที่ตอนนี้แก้มขาวขึ้นสีแดงระเรื่อเป็นลูกมะเขือเทศ
น่ากัดนักเชียว
หวังหยวนไม่ได้ตอบอะไรเอาแต่ก้มหน้าซุกหน้าอกผมอยู่อย่างนั้นจนเผลอหลับไป
ผมไล้นิ้วไปตามริมฝีปากเล็กไปจนถึงแก้มนิ่มที่ตอนนี้พูดได้เต็มปากว่าผมหลงใหลนักหนา
ทำไมเด็กคนนี้ต้องน่ารักขนาดนี้ด้วย อย่าน่ารักไปมากกว่านี้เลยหวังหยวน
อาคนนี้จะทนไม่ไหวอยู่แล้ว..
*****************************
Wangyuan part
“อื้ออ.. ฮื่อออ.. อื้ดด!” ผมส่งเสียงบิดขี้เกียจทั้งที่ยังนอนจมบนเตียงในห้องคุณอา
ป่านนี้คงออกไปทำงานแล้วเรียบร้อย
นึกถึงเรื่องเมื่อคืนผมยกนิ้วขึ้นแตะปากตัวเองแล้วอดยิ้มไม่ได้ มันทั้งเขินทั้งรู้สึกดี
จำได้ว่าปากของคุณอาอุ่นมาก ตัวผมอ่อนไปหมดเลย.. เหมือนโดนคุณอาสูบพลังชีวิตของเราไปจนหมด!
ผมนอนเขินจมกองผ้าห่มเกือบชั่วโมงกว่าจะขุดตัวเองขึ้นจากเตียงได้
ทำไมวันนี้ทุกอย่างมันดูสวยงามไปหมดเลยน๊าาา ผมหยุดยิ้มไม่ได้เลย
เพราะอะไรกันล่ะฮื้อ T///T
“คิดถึงคุณอาจังเลย~~”
แค่เอ่ยคำว่าคุณอาขึ้นมาผมก็เขินซะจนหยุดเขินไม่ได้เลย
ผมกลิ้งตัวลงบนเตียงซุกตัวกับผ้าห่มอีกครั้ง อาาา กลิ่นของคุณอานี่หอมจริงๆ เล้ยยย
นี่มัน.. เรียกว่าความสุขได้รึเปล่านะหวังหยวน
***************************
กว่าจะเลิกเพ้อได้ก็ปาเข้าไปเกือบสิบโมงเช้าแล้ว
ช่วยไม่ได้ก็คนมันฟินนี่นา ผมรีบอาบน้ำแต่งตัวเพราะเกิดความคิดดีๆ
ขึ้นมาและรีบวิ่งลงไปหาลุงหลางคนขับรถทันที
“ลุงหลางคร้าบ ~
ช่วยไปส่งผมที่บริษัทของคุณอาหน่อยสิครับ” พูดจบพร้อมยิ้มแฉ่งไปให้
ลุงหลางรีบวิ่งมาเปิดประตูรถให้แล้วออกรถไปทันที
ระหว่างทางผมมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเก็บความตื่นเต้นไม่อยู่
บ้านเมืองที่นี่ทันสมัยมากแต่คนละแบบกับนิวยอร์คที่ผมเคยอยู่
ผมไม่ค่อยได้สัมผัสบรรยากาศแบบนี้เท่าไหร่ ถึงจะเป็นคนจีนแท้ก็เถอะ
แต่ผมอยู่นิวยอร์คตั้งแต่เกิดและไม่เคยกลับมาที่นี่เลยนี่นา
เกือบหนึ่งเดือนที่มาอยู่บ้านคุณพ่อ
นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ออกมาจากบ้าน ไม่นับตอนที่นั่งแท็กซี่มาจากสนามบินนะ
ตอนนั้นผมหลับไม่รู้เรื่องเลย รู้ตัวอีกทีพี่แท็กซี่ก็ปลุกบอกว่าถึงบ้านแล้ว
ไม่นานนักลุงหลางก็พาผมมาถึงบริษัทของคุณอา
ผมก็ไม่รู้หรอกนะว่าห้องคุณอาอยู่ตรงไหน ถ้าผมไปคนเดียวยามต้องไม่ให้เข้าไปแน่ๆ
เลย แต่ดีนะที่ทุกคนจำลุงหลางได้เพราะลุงหลางมาส่งคุณอาบ่อยๆ ผมเลยเข้าบริษัทคุณอามาได้สบายมาก
ผมกดลิฟท์ไปที่ชั้น 35
ตามที่ลุงหลางบอก ทุกคนในลิฟท์ดูแปลกใจที่เห็นเด็กอย่างผมเข้ามาในบริษัทได้ยังไง
ผมยิ้มและโค้งหัวให้พวกเขาเล็กน้อยเป็นการทักทาย
รอจนประตูลิฟท์เปิดออกผมก็มองหาห้องที่มีชื่อคุณอาติดอยู่ ทุกคนให้ความสนใจผมมาก
มองกันใหญ่แต่ก็ไม่มีใครทักท้วงอะไร ผมเดินไปเรื่อยมองหาทั้งนั้นที
ทางโน้นทีก็ยังไม่เจอ
“สวัสดีค่ะ.. ไม่ทราบว่ามาหาใครคะ?”
พี่ผู้หญิงคนสวยเดินตรงมาที่ผมพร้อมเอ่ยถามอย่างสุภาพ
“ผมมาหาคุณเฉินเหว่ยถิงครับ”
ผมเองก็ตอบเธอไปด้วยความสุภาพเช่นกัน เธอยังดูลังเล
“ได้นัดไว้รึเปล่าคะ” ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ
ก็ทำไมต้องนัดด้วยล่ะ ผมอยากเจอผมก็จะเจอ ก็เขาเป็นคุณอาของผมนี่!
“คงให้เข้าพบไม่ได้หรอกนะคะ ตอนนี้ท่านรองประทานก็มีแขกอยู่ด้วย”
ผมไม่ได้สนใจที่เธอพูดและยังพยายามมองหาห้องทำงานของคุณอาให้ได้ เอ๊ะ! นั่นไง!
อยู่ข้างหน้านี่เอง
ผมรีบวิ่งตรงไปยังห้องคุณอาในขณะที่พี่คนสวยเผลอแล้วเปิดประตูออกตามมาด้วยเสียงห้ามของพี่สาว
“ไม่ได้นะคะ!/หวังหยวน!” เสียงพี่สาวคนสวยและคุณอาดังขึ้นพร้อมกัน
ผมชะงักไปนิดหน่อยกับภาพตรงหน้า
คุณอาอยู่ในห้องกับผู้หญิงคนนึง
นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอกนะ ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ได้กำลังยืนกอดกับคุณอาอยู่!
ผมมองหน้าคุณอากับผู้หญิงคนนั้นสลับกันไปมา
คุณอาเองก็ดูเงิบไปเลยที่จู่ๆ ผมก็เปิดประตูโพล่งเข้าไป เหอะ
คงจะคิดไม่ถึงล่ะสิว่าผมจะมาเจอ
ผมไม่ได้พูดอะไรต่อและออกมาจากห้องนั้นทันทีโดยมีเสียงเรียกและคุณอาวิ่งตามมาติดๆ
“หวังหยวน! หวังหยวน
รออาก่อน” ผมไม่ฟังและไม่คิดจะหยุดรอตาแก่จอมเจ้าชู้นั่นหรอก ทำเป็นงานยุ่งนักหนา ที่แท้ก็มาขลุกอยู่กับผู้หญิงนี่เอง เหอะ!
เมื่อคืนยังจูบเราอยู่เลยแท้ๆ แล้ววันนี้ดันมากอดกับยัยนั่น คงจะดีใจล่ะสิที่จะไม่ได้เป็นผู้ชายทึนทึกขึ้นคานแล้วน่ะ
คนอะไรหลายใจชะมัด ไม่อยากจะคุยด้วยแล้ว!
ผมกึ่งเดินกึ่งวิ่งจนถึงหน้าบริษัทก่อนจะโบกรถแท็กซี่แล้วขึ้นไปโดยเร็วโดยไม่หันไปมองว่าคุณอาจะตามมาอีกรึเปล่า
“ไปบ้านตระกูลเฉินครับ อยู่ถนนเฉียนเหมิน” ผมบอกกับคนขับทันทีที่ออกรถ
นึกแล้วผมทั้งโมโหทั้งน้อยใจและเสียใจ เหมือนกับจะร้องไห้แต่น้ำตามันกลับไม่ไหล
ใช่สิ!
ผมมันก็แค่เด็ก ผมมันมีแค่พุง ผมไม่ได้มีหน้าอกเหมือนยัยผู้หญิงคนนั้นนี่
ผมนั่งกอดอกเบะปากตลอดทางจนถึงที่บ้าน ผมก็วิ่งขึ้นห้องล็อคประตูไม่ได้สนใจใครทั้งนั้น
ถ้าตาแก่นั่นกลับมา อย่าหวังเลยว่าผมจะออกไปเจอ
ผมนอนกอดหมอนโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงจนเหนื่อย
นึกถึงหน้าคุณอาทีก็ต่อยหมอนทีจนหนำใจแล้วนอนแผ่บนเตียงอย่างหมดแรง สงสัยจะฟัดกับหมอนมันส์ไปหน่อย
ความจริงก็ยังโกรธอยู่หรอก แต่มันเหนื่อยจังเลย ของีบเอาแรงซักแปปนึงละกัน..
คร่อกกก คร่อกก..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น